โซ่อุปทาน ของ วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ในช่วงปี 2021 และหลังจากนั้น การแจกจำหน่ายวัคซีนโควิดต้องอาศัยการขนส่งและการติดตามวัคซีนถึง 10,000-19,000 ล้านขวด ซึ่งจะเป็นความท้าทายทางโซ่อุปทานอันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์[22][346][339]จนถึงเดือนกันยายน 2020 ผู้เชี่ยวชาญทางโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ก็ยังแสดงความเป็นห่วงว่า เครือข่ายทั้งภายในประเทศและนานาชาติที่มีอยู่แล้วเพื่อแจกจำหน่ายวัคซีนอาจไม่พอรับรองจำนวนหรือความเร่งด่วนของวัคซีนโควิด เพราะสมรรถภาพการขนส่งได้เสื่อมลงเหตุการล็อกดาวน์และการลดจำนวนพนักงานในช่วงปี 2020[346][347][348]เมื่อกล่าวถึงความท้ายทายต่อองค์กรที่ต้องประสานงานกันต่าง ๆ มากมายรวมทั้งโปรแกรมโคแว็กซ์ บริษัทยาสากล ผู้รับจ้างผลิตวัคซีน บริษัทขนส่งทั้งในประเทศและนานาชาติ คลังจัดเก็บวัคซีน และองค์กรสาธารณสุขในแต่ละประเทศ ประธานบริหารของกาวีได้ระบุว่า "การส่งวัคซีนเป็นพัน ๆ ล้านโดสไปทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพจะมีอุปสรรคทางโลจิสติกส์และทางแผนการที่ซับซ้อนอย่างยิ่งตลอดทั้งโซ่อุปทาน"[349]

ตัวอย่างที่เน้นความใหญ่โตของปัญหาก็คือ สมาคมการขนส่งทางอากาศนานาชาติ (International Air Transport Association, IATA) ระบุว่า จะต้องมีเครื่องบินขนส่งโบอิง 747 ซึ่งประกอบกับตู้เย็นวัคซีนพิเศษที่รักษาอุณหภูมิอย่างแม่นยำถึง 8,000 ลำเพื่อใช้ส่งยาเพียงโดสหนึ่งไปยังประเทศเกิน 200 ประเทศทั่วโลก[350]โดยกาวีก็ระบุอีกว่า "สำหรับการระบาดทั่วที่แพร่ไปอย่างรวดเร็ว จะไม่มีใครปลอดภัยยกเว้นทุกคนปลอดภัย"[75]

เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีวัคซีนและงานวิจัยทางคลินิกระยะต้น ๆ ที่ได้เงินทุนเป็นพัน ๆ ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วโซ่อุปทานที่จำเป็นหลังวัคซีนได้อนุมัติกลับไม่ได้รับความสนใจเท่าในด้านการวางแผน การประสานงาน ความมั่นคงปลอดภัย และการลงทุน[346][347][351]ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ทรัพยากรเพื่อแจกจำหน่ายวัคซีนในประเทศที่มีรายได้ต่ำจนถึงปานกลาง (รวมทั้งประเทศไทย) โดยเฉพาะในการให้วัคซีนแก่เด็ก อาจไม่เพียงพอหรือไม่มีเลย แต่อาจปรับปรุงโดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดได้ถ้าสามารถซื้อและแจกจำหน่ายในระดับภูมิภาคหรือระดับชาติ[75][352]

ในเดือนกันยายน โปรแกรมโคแว็กซ์รวมประเทศ 172 ประเทศซึ่งประสานแผนงานเพื่อให้ได้โซ่อุปทานของวัคซีนโควิดที่ดีสุด[353]และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติก็ได้เข้าร่วมกับโคแว็กซ์เพื่อตระเตรียมเงินทุนและโซ่อุปทานเพื่อให้วัคซีนแก่เด็กในประเทศกำลังพัฒนา 92 ประเทศ[354][355]

โลจิสติกส์

การมีระบบโลจิสติกส์ในการให้วัคซีนจะช่วยให้มีเครื่องไม้เครื่องมือ บุคลากร และวัคซีนที่ได้อนุมัติอย่างข้ามพรมแดน[356] ซึ่งอาจรวมการจัดการและเฝ้าสอดส่องวัคซีน การบริหารการเก็บและขนส่งที่ต้องใช้ตู้เย็น (คือโซ่เย็น) และความปลอดภัยในการแจกจำหน่ายวัคซีนภายในระบบ[357] เป้าของโปรแกรมโคแว็กซ์ก็เพื่อรวมศูนย์และจัดการทรัพยากรทางโลจิสติกส์อย่างยุติธรรมในบรรดาประเทศที่เข้าร่วมด้วย โดยรวมเข้าด้วยกันซึ่งการผลิต การขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโซ่อุปทานโดยทั่วไป[75][351]และมีเครื่องมือในการพยากรณ์วัคซีน การประเมินความต้องการ การบริหารวัคซีนภายในประเทศ การจัดการวัคซีนที่อาจเสีย และการบริหารวัคซีนในคลัง[357] ปัจจัยทางโลจิสติกส์อื่น ๆ ที่จะทำในระดับนานาชาติเมื่อแจกจำหน่ายวัคซีนโควิดอาจรวม[346][358][359]

  • การสืบติดตามวัคซีนแต่ละขวดได้ผ่านบาร์โค้ด
  • การแชร์ผลการตรวจสอบ (audit) ผู้จัดจำหน่าย
  • การแชร์ระบบติดตามขวดวัคซีนเริ่มจากผู้ผลิตไปจนถึงบุคคลที่ได้วัคซีน
  • การใช้อุปกรณ์สอดส่องอุณหภูมิของวัคซีน
  • การตรวจและการประกันความเสถียรของอุณหภูมิ
  • เทคโนโลยีการบรรจุและการขนส่งใหม่ ๆ
  • การเก็บสะสมวัคซีนในคลัง
  • การจัดการเครื่องมือเครื่องใช้ภายในประเทศ (อุปกรณ์ป้องกันโรค สารทำให้เจือจาง กระบอกฉีดยา เข็มฉีดยา จุก เชื้อเพลิงหรือแหล่งพลังงานสำหรับตู้เย็น การจัดการของเสีย/ขยะ เป็นต้น)
  • เทคโนโลยีการสื่อสาร
  • การบริหารผลต่อสิ่งแวดล้อมในแต่ละประเทศ

ตามผู้ผลิตวัคซีนรายหนึ่ง ปัญหาทางโลจิสติกส์ในขั้นใดขั้นหนึ่งอาจสะดุดโซ่อุปทานทั้งโซ่[360]และถ้าโซ่อุปทานของวัคซีนล้มเหลว ความเสียหายทางเศรษฐกิจและทางมนุษยชนเหตุการระบาดทั่วอาจยืดยาวเป็นปี ๆ[348]

กำลังการผลิต

จนถึงเดือนสิงหาคม 2020 แม้เมื่อมีวัคซีนแคนดิเดตเพียงไม่กี่อย่างที่กำลังทดลองทางคลินิกในระยะที่ 3 โดยยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนเพื่อกำหนดความปลอดภัยและประสิทธิศักย์ รัฐบาลต่าง ๆ ก็ได้สั่งวัคซีนล่วงหน้ามากกว่า 2,000 ล้านโดสโดยมีค่าใช้จ่ายเกิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 158,000 ล้านบาท)[339][360][361]รัฐบาลอังกฤษได้สั่งวัคซีนสำหรับปี 2021 ล่วงหน้าเป็นจำนวน 5 โดสต่อประชากรหนึ่งคน เป็นจำนวนที่ก่อความท้อใจแก่องค์กรต่าง ๆ เช่น องค์การอนามัยโลกและกาวีซึ่งกำลังโปรโหมตการเข้าถึงวัคซีนอย่างยุติธรรมและทั่วถึงกันโดยเฉพาะสำหรับประเทศกำลังพัฒนา[339]ในเดือนกันยายน เซพีให้ทุนสนับสนุนทั้งงานวิจัยพื้นฐานและการทดลองทางคลินิกสำหรับวัคซีนแคนดิเดต 9 อย่าง โดยมีอีก 9 อย่างที่กำลังประเมิน และตกลงจะผลิตวัคซีนที่ได้อนุมัติ 3 อย่างเป็นจำนวน 2,000 ล้านโดสไม่เกินปี 2021[353]ทั่วไปแล้วก่อนปี 2022 ทั่วโลกอาจผลิตวัคซีนระหว่างเจ็ดพันถึงหมื่นล้านโดส แต่การสั่งวัคซีนล่วงหน้าของประเทศร่ำรวยก็อาจทำให้วัคซีนไม่มีสำหรับประเทศที่ยากจน[22][360][339]

หลังจากเข้าร่วมโปรแกรมโคแว็กซ์ในเดือนตุลาคม จีนก็ระบุว่าจะผลิตวัคซีน 600 ล้านโดสก่อนสิ้นปี 2020 และผลิตอีกพันล้านโดสในปี 2021 แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจำนวนเท่าไรจะใช้ในจีนเองซึ่งมีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน[362]ไซโนฟาร์มกล่าวว่า บริษัทอาจมีกำลังผลิตวัคซีนเกิน 1,000 ล้านโดสในปี 2021[363]โดยหุ้นส่วนในดูไบคือบริษัท G42 Healthcare ก็มุ่งจะผลิตให้ได้ถึง 100 ล้านโดสในปี 2021 ให้ใช้ในตะวันออกกลาง[364]ส่วนไซโนแว็กก็กล่าวว่า บริษัทมุ่งสร้างโรงงานที่สองให้เสร็จปลายปี 2020 เพื่อเพิ่มกำลังผลิตวัคซีน CoronaVac เป็น 600 ล้านโดสซึ่งเป็นทวีคูณจากจำนวนเดิม[365]โดยหุ้นส่วนในบราซิลคือ Instituto Butantan มีแผนจะผลิตให้ถึง 100 ล้านโดส[366]และหุ้นส่วนในบราซิลคือ Bio Farma ก็มีแผนจะผลิตให้ได้ 250 ล้านโดส[367]

สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียมีแผนจะผลิตวัคซีนอย่างน้อย 1,000 ล้านโดส แต่ก็ระบุแล้วว่าครึ่งหนึ่งจะใช้ในอินเดีย[339]

ส่วนประธานบริหารของบริษัทแอสตราเซเนการะบุว่า "ปัญหาไม่ใช่การผลิตวัคซีนเอง มันอยู่ที่ขวดบรรจุ คือโลกไม่มีขวดบรรจุพอ"[368]เพื่อเตรียมตัวรับมือกับการสั่งขวดเป็นจำนวนมาก บริษัทผลิตภัณฑ์แก้วอเมริกันรายหนึ่งได้ลงทุน 163 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,100 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานผลิตขวดวัคซีน[369]แต่การมีแก้วพอและการควบคุมความปนเปื้อนก็อาจเป็นปัญหา[370]ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายการผลิตสูงขึ้น และกำไรน้อยลงสำหรับผู้พัฒนาวัคซีน ในสถานการณ์ที่เรียกร้องให้วัคซีนมีราคาพอจ่ายไหว[75][339][348]

วัคซีนต้องดูแลและขนส่งตามกฎควบคุมสากล ต้องรักษาไว้ที่อุณหภูมิอันแน่นอนต่าง ๆ กันแล้วแต่เทคโนโลยีของวัคซีน และต้องใช้ก่อนเสื่อมเมื่อเก็บไว้ในคลัง[339][360]โซ่อุปทานของวัคซีนโควิดคาดว่าจะมีขนาดมหึมาเพื่อให้ส่งไปยังประชากรทั่วโลกได้[22][347]สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมตัวการขนส่งเยี่ยงนี้รวมอุปกรณ์และคลังเก็บที่ควบคุมอุณหภูมิ โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม บุคลากรที่ได้ฝึกเพื่อให้วัคซีน และการเฝ้าติดตามอย่างระมัดระวัง[347][349][354]จะมีการใช้อาร์เอฟไอดี (การระบุตัวด้วยคลื่นวิทยุ) เพื่อติดตามและยืนยันวัคซีนของจริงโดยเริ่มจากผู้ผลิต ไปตามโซ่อุปทาน จนถึงผู้ได้วัคซีน[371]

ในเดือนกันยายน 2020 บริษัท Grand River Aseptic Manufacturing ตกลงกับจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพื่อช่วยผลิตวัคซีนโควิด รวมทั้งการอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีและการผลิตวัคซีนขั้นตอนสุดท้ายให้ (คือการบรรจุขวดและปิดป้าย)[372]ในเดือนตุลาคม 2020 มีประกาศว่าวัคซีนของมอเดิร์นาจะผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยบริษัทลอนซากรุ๊ปซึ่งวางแผนจะผลิตเริ่มแรกในเดือนธันวาคม 2020[373]มีโรงงานผลิตใหม่ซึ่งมีเนื้อที่ 2,000 ตร.ม. และจะเพิ่มการผลิตจนถึง 300 ล้านโดสต่อปีโดยส่วนประกอบจะส่งแช่แข็งที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียสไปยังแหล็บ Laboratorios Farmacéuticos Rovi SA ในสเปนเพื่อการผลิตขั้นสุดท้าย[373]ส่วนโรงงานของลอนซาในสหรัฐก็จะผลิตส่วนประกอบเพื่อสหรัฐเท่านั้นโดยอาจเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน[373]

โซ่เย็น (cold chain)

วัคซีนและตัวเสริมไม่เสถียรโดยธรรมชาติเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน จึงทำให้ต้องมี "โซ่เย็น" (cold chain) คือมีการแช่เย็นในการขนส่งและการเก็บตลอดโซ่อุปทาน ปกติที่อุณหภูมิราว 2-8 องศาเซลเซียส[359][374]เพราะวัคซีนโควิดใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ จึงก่อปัญหาใหม่ ๆ ในการจัดการบริหารโซ่เย็น มีวัคซีนบางอย่างที่เสถียรเมื่อแช่แข็งแต่ไม่คงตัวเมื่อเจอความร้อน บางอย่างไม่ควรแช่แข็งเลย และบางอย่างเสถียรตลอดทุกอุณหภูมิ[374]ความเสียหายเหตุการแช่แข็งและการฝึกบุคลากรในพื้นที่ไม่ดีพอจึงอาจเป็นปัญหาสำคัญ[375]

ถ้าวัคซีนโควิดมากกว่าหนึ่งอย่างได้อนุมัติ โซ่เย็นวัคซีนอาจต้องแก้ปัญหาความไวอุณหภูมิในระดับต่าง ๆ ข้ามประเทศต่าง ๆ ที่มีภูมิอากาศต่าง ๆ และมีทรัพยากรในพื้นที่เพื่อรักษาอุณหภูมิต่าง ๆ กัน[374]วัคซีนของไซโนฟาร์มและไซโนแว็กเป็นตัวอย่างวัคซีนที่ใช้ไวรัสฆ่าแล้วในระหว่างการทดลองระยะที่ 3 ซึ่งสามารถขนส่งโดยระบบโซ่เย็นที่มีอยู่แล้วคือสามารถแช่เย็นในอุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศาเซลเซียส[376][377]

ส่วนเทคโนโลยีวัคซีนซึ่งใช้เอ็มอาร์เอ็นเอที่แปลงนิวคลีโอไซด์ (modRNA) อาจยากในการผลิตมาก ๆ หรือรักษาไว้ไม่ให้เสื่อม จึงต้องใช้ตู้แข็งแบบเย็นมากเพื่อเก็บในคลังและในการขนส่ง[348]ยกตัวอย่างเช่น วัคซีนอาร์เอ็นเอของมอเดิร์นาต้องใช้โซ่เย็นเพียงแค่เหนือจุดเยือกแข็งโดยเก็บได้เป็นเวลาจำกัด แต่วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคต้องเก็บในตู้แข็งเย็นเป็นพิเศษที่อุณหภูมิ -80 ถึง -60 องศาเซลเซียสตลอดการขนส่งจนถึงจุดให้วัคซีน[378][379]

หลังจากเจาะขวดวัคซีนด้วยเข็มฉีดแล้ว ก็จะใช้ได้เพียงแค่ 6 ชม. แล้วก็ต้องทิ้งไป หน่วยบริการในพื้นที่จึงต้องบริหารการแช่แข็งและการให้วัคซีน[22][380]เพราะวัคซีนโควิดน่าจะขลาดแคลนเมื่อเริ่มใช้ในเบื้องต้น บุคลากรก็จะต้องหลีกเลี่ยงการทำของเสีย ซึ่งปกติอาจจะถึงร้อยละ 30 ของวัคซีนที่มี[346][380]โซ่อุปทานยังอาจมีปัญหากับวิธีการขนส่งวัคซีนในพื้นที่ชนบท เช่น ด้วยจักรยานยนต์หรือด้วยโดรนส่งของ กับการต้องให้วัคซีนครั้งที่สอง กับการใช้สารทำให้เจือจาง กับการเข้าถึงกลุ่มประชากรเป้าหมาย เช่น บุคลากรทางแพทย์ เด็ก และคนชรา[22][354][381]

การขนส่งทางอากาศและทางบก

การประสานงานเครื่องบินขนส่งระดับนานาชาติจำเป็นในการแจกจำหน่ายวัคซีนโควิดที่มีจำกัดเวลาและอุณหภูมิ แต่จนถึงเดือนกันยายน 2020 เครือข่ายขนส่งเช่นนี้ก็ยังไม่พร้อมขนส่งวัคซีนในระดับนานาชาติ[347][350][382]ประธานบริหารของสมาคมการขนส่งทางอากาศนานาชาติ (IATA) ได้กล่าวในเดือนกันยายนว่า "การขนส่งวัคซีนโควิด-19 อย่างปลอดภัยจะเป็นภาระหน้าที่ซึ่งศตวรรษหนึ่งมีครั้งเดียวของอุตสาหกรรมขนส่งทางอากาศทั่วโลก แต่นี่เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่วางแผนล่วงหน้าอย่างระมัดระวังซึ่งต้องทำเดี๋ยวนี้เราวิงวอนให้รัฐบาลเป็นผู้นำในการอำนวยการร่วมมือกันตลอดโซ่โลจิสติกส์เพื่อจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก ความมั่นคงและปลอดภัย และกระบวนการตรวจที่ชายแดนให้พร้อมกับงานขนาดยักษ์และซับซ้อนข้างหน้านี้"[382]

เพราะการลดจำนวนผู้โดยสารทางอากาศอย่างหนักในช่วงปี 2020 สายการบินต่าง ๆ จึงได้ไล่พนักงานออก ลดจุดหมายที่บริการ และนำเครื่องบินไปเก็บในที่เก็บระยะยาว[347][382]ดังนั้น องค์กรผู้นำในการซื้อหาและแจกจำหน่ายวัคซีนโควิดภายในโปรแกรมโคแว็กซ์คือกาวีและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ จึงกำลังเตรียมตัวส่งวัคซีนเป็นจำนวนมากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่เคยมี โดยประสานงานกับบริษัทขนส่งทางอากาศนานาชาติ การควบคุมคนเข้าเมืองและการตรวจอากรสินค้า และการใช้บริการของเครื่องบินขนส่งอาจถึง 8,000 ลำเพียงแค่จะส่งวัคซีนโดสเดียวไปยังประเทศต่าง ๆ[354][382]

วัคซีนสองอย่างแรก ๆ ที่ได้อนุมัติคือ Tozinameran ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และ mRNA-1273 ของมอเดิร์นาต้องแช่แข็งในระหว่างการขนส่งโดยใช้ตู้บรรจุที่ออกแบบเป็นพิเศษ[lower-alpha 1]และน้ำแข็งแห้ง แต่น้ำแข็งแห้งก็ปกติอนุญาตเป็นจำนวนจำกัดบนเครื่องบินเพราะแก๊สจากการการระเหิดอาจเป็นพิษในสหรัฐ องค์การบริหารการบินแห่งชาติจำกัดจำนวนน้ำแข็งแห้งสำหรับเครื่องบินโบอิง 777 เพียงแค่ 1.4 ตัน แต่ก็อนุญาตชั่วคราวให้สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ขนส่งถึง 6.8 ตัน คือเป็นวัคซีนเกือบ 1 ล้านโดส ระหว่างกรุงบรัสเซลส์จนถึงเมืองชิคาโกอเมริกันแอร์ไลน์ โบอิง และเดลตาแอร์ไลน์ก็กำลังเพิ่มสมรรถภาพการขนส่งน้ำแข็งแห้งสำหรับแต่ละเที่ยวบิน โดยสายการบินอเมริกัน เดลตา และยูไนเต็ดต่างก็มีเครือข่ายขนส่งสินค้าแช่เย็นในสหรัฐของตน ๆ ส่วนเฟดเอกซ์และยูพีเอสได้ติดตั้งตู้แช่เข็งเย็นพิเศษที่ศูนย์เครื่องบินขนส่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ[384]

ความมั่นคงปลอดภัยและคอรัปชั่น

ยาเป็นสินค้าปลอมที่มีค่ามากที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าเกิน 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 6.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งทำให้วัคซีนโควิดอันมีความต้องการอย่างยิ่งเสี่ยงถูกปลอม ถูกขโมย เสี่ยงการฉ้อฉลและการโจมตีทางไซเบอร์ (cyberattack) ตลอดโซ่อุปทาน[351][385]จนกระทั่งถึงเรียกวัคซีนว่าเป็น "ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในโลก" โดยตำรวจสากลเรียกมันว่า "ทองเหลว" และเตือนถึงการมีอาชญากรรมประเภทต่าง ๆ เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน[386] ระบบป้องกันคอรัปชั่น การสร้างความโปร่งใส การระบุหน้าที่รับผิดชอบก็กำลังตั้งขึ้นเพื่อลดและกำจัดคอรัปชั่นเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ของวัคซีนโควิด[385][387]แต่การไร้กฎหมายที่มีโครงสร้างเดียวกันระหว่างประเทศต่าง ๆ การไร้สมรรถภาพทางเทคโนโลยี การเข้าถึงวัคซีนได้จำกัด และความไม่สามารถระบุหรือติดตามวัคซีนของจริงหรือของปลอม ก็อาจเป็นอัตรายต่อชีวิตของผู้ได้วัคซีน และอาจทำให้การระบาดทั่วของโควิดไม่สิ้นสุด[385]ดังนั้น ผู้ผลิตวัคซีนจึงใช้เทคโนโลยีติดตามเพื่อตามขวดวัคซีนไปจนตลอดโซ่อุปทาน[351]และใช้เครื่องมือดิจิตัลแบบชีวมาตร (biometric) เพื่อสร้างความปลอดภัยสำหรับวัคซีน[371][388]

ในเดือนธันวาคม 2020 ตำรวจสากลเตือนว่า พวกมาเฟียอาจแทรกตัวเข้าไปในโซ่อุปทานของวัคซีนแล้วขโมยวัคซีนหรือขโมยข้อมูล หรือแม้แต่ขายชุดวัคซีนปลอม[389]อนึ่ง วัคซีนที่ต้องแช่แข็งอยู่ตลอดก็เสี่ยงต่อวินาศกรรมด้วย[386]

อุปกรณ์จีพีเอสจะใช้ติดตามวัคซีนในสหรัฐในรัฐโคโลราโด เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐจะตามคุ้มครองวัคซีนที่ส่งจากท่าอากาศยานนานาชาติเดนเวอร์ไปยังศูนย์ส่งต่อวัคซีนต่าง ๆ ในรัฐ 8 แห่งโดยแผนการขนส่งจะเก็บเป็นความลับและเจ้าหน้าที่จะอำพรางปิดบังภารกิจ[383]

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็ยังอาจเกิดผลกระทบด้วยนักวิเคราะห์ทางความมั่นคงปลอดภัยของบริษัทไอบีเอ็มได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า บริษัทเคมีภัณฑ์ปิโตรเลียมได้กลายเป็นเป้าสำหรับนักเลงคอมพิวเตอร์เพราะบทบาทสำคัญของบริษัทในการผลิตน้ำแข็งแห้ง[386]

โครงสร้างพื้นฐานของชาติ

องค์การอนามัยโลกได้สร้างระบบบริหารวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Vaccine Management)[390] ซึ่งรวมการจัดลำดับความสำคัญเพื่อเตรียมบุคลากรทั้งประจำประเทศและส่วนภูมิภาค เตรียมสถานบริการเพื่อแจกจำหน่ายวัคซีนรวมทั้ง

  • ฝึกบุคลากรให้สามารถจัดการวัคซีนที่มีเวลาและอุณหภูมิจำกัด
  • ระบบการเฝ้าสอดส่องที่ทนทานเพื่อให้สามารถเก็บและขนส่งวัคซีนได้ดีที่สุด
  • การมีอุปกรณ์และสถานที่ที่ควบคุมอุณหภูมิได้
  • การติดตามวัคซีนได้
  • ความปลอดภัย

กระบวนการตรวจเมื่อเข้าเมืองเพื่อให้จัดการวัคซีนและผ่านกงศุลได้อย่างมีประสิทธิภาพในประเทศแต่ละประเทศอาจรวม[356][390]

  • อำนวยความสะดวกแก่สายการบิน
  • ยกเว้นเจ้าหน้าที่เครื่องบินจากการกักด่าน
  • สร้างระบบปฏิบัติการที่ยืดหยุ่นได้เพื่อให้ใช้ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • จัดลำดับให้เครื่องบินขนส่งลงก่อนเหตุการรักษาอุณหภูมิ

แหล่งที่มา

WikiPedia: วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=5552... http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=5665... http://www.cloverbiopharma.com/index.php?m=content... http://www.pmlive.com/pharma_news/gsk,_medicago_la... http://www.walvax.com/wosen/28.aspx //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14667748 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14676007 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15655773 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15885812 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16453264